October 29, 2014

MarkNior | One More Night

Title ::  One more night
Author :: AliceJay
Category :: Romantic
Pairing :: Mark/Jinyoung















ONE.MORE.NIGHT







มาร์คพูดกับตัวเองเป็นหนที่ร้อยว่าเขาจะเลิกกับปาร์คจินยอง


เลิกเด็ดขาด  ไม่เอาแล้ว  ไม่อยากจะทน


เลิก!





เขา เดินขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่บนชั้นสอง  เปิดตู้เสื้อผ้าที่มีเสื้อตัวเองกับคนที่กำลังจะเป็นอดีตคนรักแขวนปะปนกันไป หมด  เขาสบถอย่างหงุดหงิด   แม้กระทั่งเสื้อผ้าก็ไม่ยอมแยกฝั่งให้เป็นระเบียบ   นี่เขาทนคนแบบนี้มาได้ยังไงตั้งหลายปี


มือ ขาวหยิบชุดที่คาดว่าน่าจะเป็นของตัวเองออกมาแล้วยัดใส่กระเป๋าเดินทางลวกๆ  วินาทีนี้ต้องการความรวดเร็ว  ยิ่งเขาออกไปจากที่นี่ได้ไวเท่าไหร่ก็ยิ่งดี  


ปาร์คจินยองน่ะเป็นที่สุดของความไม่ได้เรื่อง


นอกจากหน้าตาน่ารักและแรงดึงดูดทางเพศอันมหาศาลแล้ว  มาร์คก็มองไม่เห็นข้อดีอื่นๆ ของคนเคยรักเลยสักนิด



ชี้บ่นหรือ?  ให้ที่หนึ่ง
ขี้หึงล่ะ? เอาที่สองไป
ถามว่าดื้อมั้ย? จัดอันดับไม่ได้  พูดได้แค่ ‘มากกกก’



นี่เขารักคนแบบนี้ลงได้ยังไง



“มาร์ค”


เสียง จินยองดังขึ้นที่ประตู  มาร์คหันไปมอง   ร่างโปร่งสวมสเว็ตเตอร์สีเทาอ่อนกับกางเกงยีนส์พอดีตัว  มีบีนี่สีขาวอยู่บนศีรษะอย่างน่ารักพอให้คนมองได้ใจสั่นเล่นๆ   เขาสะบัดหัวแรงๆ แล้วหันกลับมาจัดการกับกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองต่อ


“จะ ไปไหน” จินยองยังไม่ละความพยายาม   ใบหน้าของเด็กหนุ่มฉายแววฉงน  มือขวาดึงจุ๊บปาจุ๊บที่อมอยู่ในปากออกมาเพื่อให้การพูดคุยเป็นไปได้สะดวก ขึ้นพลางสืบเท้าเข้ามาใกล้  “จินยองถามว่าจะไปไหน”


“ยังไม่รู้” เขาตอบตามความจริง  พยายามไม่หันไปมองอีกฝ่าย  “รู้แต่ว่าไปไหนก็ได้ที่ไกลจากบ้านหลังนี้”


“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ”


“เลิกกันเหอะจินยอง”


คำบอกเลิกของเขาสต๊าฟฟ์ให้จินยองยืนนิ่งอยู่กับที่   เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะยัดอมยิ้มเข้าปากอีกครั้ง   “โอเค  เลิกก็เลิก”


ง่ายไป


มาร์ค เลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าจินยองไม่มีท่าทีอิดออด   กลายเป็นเขาเองนั่นแหละที่ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเฉยๆ   เขาละมือจากเสื้อเชิ้ตทำงานตัวเก่งแล้วหันกลับมามองหน้าอีกฝ่ายเต็มตา  “นายไม่โกรธเหรอ  ไม่เสียใจบ้างที่โดนบอกเลิกอะไรแบบเนี้ย”


“นี่ คิดก่อนพูดหรือเปล่าเนี่ย  ถามโง่ๆ” ร่างโปร่งตอกกลับ   สายตาเรียวก้มมองนาฬิกาในมือแล้วเงยหน้ามาถอนหายใจใส่เขา  “จะสี่ทุ่มแล้ว”


“แล้ว?”


“ดึกแบบนี้จะออกไปยังไง  แถวนี้มันไม่ค่อยจะมีรถมาร์คก็รู้  แถมมาร์คยังไม่มีจุดหมายปลายทางอีก”


จริง  มาร์คลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย


เขาขมวดคิ้ว  พยายามครุ่นคิดว่าพอจะมีใครให้เขาได้ไปพักพิงได้บ้างในยามวิกาลเช่นนี้



เจบี? ตัดไป  มันเพิ่งพาแฟนไปฮันนีมูนรอบที่สาม
ยองแจ? ตัดอีก  มันก็ไปกับเจบีนั่นแหละ



“แจ็ค สันกับแบมแบมกลับไปหาแม่ที่เมืองไทย”  จินยองเอ่ยดักราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร   มาร์คล่ะเกลียดที่จินยองรู้ทัน  แต่เกลียดกว่าก็คือไอ้พวกมีความรักแล้วหนีเขาไปเที่ยวนี่แหละ


“เดี๋ยวฉันไปหายูคยอมก็ได้”


“ครั้ง สุดท้ายที่มีคนไปเล่นที่บ้านหมอนั่นก็เกือบเอาชีวิตกลับมาไม่รอด  นายลืมไปแล้วหรือไง   ปล่อยเด็กมันอ่านหนังสือเตรียมสอบไปเหอะ  อย่าไปกวนน้องมันเลย”


ความเนิร์ดของยูคยอมไม่ใช่เรื่องล้อเล่น


มาร์คเริ่มลังเล  สมองประมวลผลว่าแถวนี้พอจะมีห้องพักราคาสบายกระเป๋าพอให้เขาซุกหัวนอนสักคืนไหม


แล้วจินยองก็ยื่นข้อเสนอ


“ก็นอนนี่ไปก่อนสิ  เช้าค่อยไป”


“ฮะ?”


จินยองถอนหายใจ   เปลี่ยนท่ายืนล้วงกระเป๋าเป็นกอดอกพิงประตูแทน   มือเรียวถือจุ๊บปาจุ๊บคลอเคลียอยู่ที่ริมฝีปากอิ่ม


น่ารักฉิบหาย


“นอนที่นี่แหละ  แล้วเช้าจะไปไหนก็ไป”


เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเลือกไหนที่ดีกว่านี้แล้วมาร์คจึงจำพยักหน้าตกลง  “ก็ได้  แต่แค่คืนเดียวนะ”


"ขอ ให้จริง" จินยองยิ้มกริ่มแล้วเดินเข้ามาในห้องนอนของพวกเขาโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูให้ เรียบร้อย   เด็กหนุ่มเดินอ้อมเตียงไปนั่งที่โซฟาตัวเล็กที่อยู่มุมห้อง   สายตายังคงจับจ้องมาที่มาร์คจนเขาเริ่มอึดอัด


“สงสัยอะไรก็ถามสิ”


“คราวนี้เลิกเพราะอะไร”


มาร์ค ถอนหายใจ  เหนื่อยจะนับแล้วว่าเขาบอกเลิกจินยองมากี่หน  เหตุผลที่บอกก็ซ้ำบ้างไม่ซ้ำบ้าง  แต่ครั้งนี้สาเหตุมันต่างจากครั้งก่อนๆ โดยสิ้นเชิง


“เมื่อไหร่นายจะเลิกให้ฉันซักผ้าให้”


จินยองหลุดขำออกมาทันที  “เรื่องแค่นี้เองเหรอ?”


“ใช่ที่ไหน”


“งั้นพูดมาให้หมด”


“เออ  ก็ตอนซักผ้าเมื่อเย็น  ฉันได้กลิ่นน้ำหอมของคนอื่นที่ไม่ใช่นาย”


“แล้วไงอีก”


มาร์คสบถออกมาอย่างฉุนเฉียว  “มันต้องใกล้กันขนาดไหนล่ะวะน้ำหอมถึงจะติดเสื้อกลับมาได้เนี่ย”


“หึง?”


บ้าบอ  ใครจะหึง
มาร์คไม่ได้มีนิสัยเหมือนปาร์คจินยองสักหน่อย


จิ นยองลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินมาหาเขาที่ปลายเตียง  เด็กหนุ่มนั่งลงข้างๆ ใบปากยังคงมีอมยิ้มสีสดอยู่   “เสื้อเชิ้ตสีขาวของอาร์มานี่ใช่มั้ย”


“มั้ง” ไม่รู้เหมือนกัน  มาร์คไม่ได้จำ  รู้แค่ไม่ใช่น้ำหอมแบบที่เป็นกลิ่นประจำของเจ้าตัวเขาก็โกรธจนควันออกหูแล้ว


จินยองดึงอมยิ้มออกจากปากตัวเองแล้วยัดเข้าปากของเขาทันที  มาร์คอยากจะท้วงแต่ก็โดนนิ้วเรียวทาบเอาไว้  “ชู่ว  ฟังก่อน”


กลอกตา  เบื่อ  ไม่อยากจะฟังคำแก้ตัว  แต่ก็พยักหน้าไปส่งๆ


“วันนั้นฉันไปหาป๊ามานายลืมแล้วหรือไง  พ่อลูกกอดกันนี่มันผิดตรงไหน”


มาร์ค นิ่ง  เขาหันไปมองหน้าจินยองด้วยความรู้สึกที่ถูกตีรวน  สำเหนียกได้ว่ากรณีนี้ตัวเองผิดเต็มประตู  เขาดึงอมยิ้มออกจากปากตัวเองช้าๆ แล้วเฉไฉ  “ปกติน้ำลายนายรสชาติแย่ขนาดนี้เลยเหรอ”


จินยองเลิกคิ้ว  “ลองใหม่มั้ยล่ะ”


“ไม่ล่ะ  ขอบใจ  เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันก็ไปแล้ว” ที่พูดไปเพราะยังฟอร์มจัด  ขอไปตั้งสติตัวเองสักสองสามวันค่อยกลับมาง้อแล้วกัน


แต่จินยองก็คือจินยอง  เคยเชื่ออะไรเขาที่ไหน


จินยองผลักมาร์คให้เอนราบไปกับเตียงโดยที่คร่อมอีกฝ่ายไว้ทั้งตัว  สายตาที่มองมาพราวระยับจนคนมองใจสั่น


ขอย้ำอีกรอบว่าปาร์คจินยองมีแรงดึงดูดทางเพศอย่างมหาศาล


ไม่รอให้ร่างเล็กกัดปากยั่วเขาเป็นหนที่สอง  มาร์คพลิกอีกฝ่ายให้กลับมาอยู่ใต้อาณัติของเขาทันที   ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกันอย่างเร่าร้อนและรุนแรง   สมองของมาร์คพยายามบอกเขาว่านี่มันผิดนะ  นายกำลังจูบกับคนที่เพิ่งบอกเลิกไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว  และนายก็มีแนวโน้มจะจบคืนนี้ด้วยการมีเซ็กส์ด้วยกันอีกรอบ


“อืม  จินยอง”


แต่ร่างกายเขามันดื้อ


“เข้ามาอีก  อ่า..”


เคยฟังสมองตัวเองเสียที่ไหน


“งั้นก็ช่วยอ้าขาให้มันกว้างอีกหน่อยได้ไหม”


ก็ลองมีเจ้าของหัวใจเป็นปาร์คจินยองสิ  ต่อให้มีอีกสิบสมองมาร์คก็เชื่อว่าเขาจะแพ้อยู่ดี


แพ้ทาง
ไม่ใช่สิ  แพ้ทุกทาง







FIN*






___________ let’s TALK!

ชั่ววูบมาก  อะไรของแก  555555555555555  อย่าหาสาระจากฟิคเรื่องนี้  แต่งสนองนี้ดตัวเองอีกแล้ว   คุยกันใน #ฟิคอลจ จ้า



อลจ
141020