February 19, 2015

JackBam | Short Answer

 Pairing :: Jackson/Bambam





















แจ็คสันไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเผลอนั่งจ้องหน้าแบมแบมตาแทบไม่กระพริบ  จนกระทั่งมือบางของอีกฝ่ายฟาดลงมาที่หน้าตักนั่นแหละ  ชายหนุ่มถึงได้รู้ตัวพลางร้องโอดโอย



“ตีพี่ทำไมเนี่ย”



“แล้วจ้องทำไมล่ะ  ถามแล้วก็ไม่ตอบ”  แก้มใสของคนพูดแดงระเรื่อ  น่าเอ็นดูจนเขาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปหยิกด้วยความหมั่นเขี้ยว  แบมแบมร้องเสียงหลง  อดีตนักกีฬาหัวเราะเบาๆ แล้วปล่อยมือออก



วันนี้เป็นวันหยุดเทศกาลปีใหม่จีน  สมาชิกสัญชาติเกาหลีจึงพากันกลับไปหาครอบครัว  รวมถึงมาร์คฮยองที่โดนแจ็คสันติดสินบนให้ย้ายไปค้างบ้านยูคยอมชั่วคราว - เหยียบให้มิดนะ เรื่องนี้แบมแบมไม่รู้ -  ทำให้ทั้งห้องมีเพียงแค่เขาและเด็กชายตัวเล็กที่นั่งกุมแก้มของตัวเองอยู่ข้างๆ



“เจ็บเหรอ?” เขาถาม  เพราะแบมแบมเป็นผู้ชายเขาจึงเล่นกับน้องด้วยแรงของผู้ชาย  บางครั้งก็ลืมไปเสียสนิทว่าเด็กชายตัวบางเท่าไม้ซีกเท่านั้น



แบมแบมเบ้ปาก  “เจ็บมากเลย”



“สำออย”



“เขาเรียกว่าอ้อนต่างหาก”



คำว่าอ้อนของอีกฝ่ายมีผลต่อระบบหายใจของตัวเอง  แจ็คสันยิ้มค้าง  ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นเร็วขึ้นมาอีกหนึ่งอัตรา   ชายหนุ่มล็อกคอแบมแบมมากอดไว้อย่างที่เล่นกันเป็นปกติด้วยเหตุผลที่ไม่ปกติ   เขาไม่สามารถทนมองปากยื่นๆ ของเด็กหนุ่มได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว



แจ็คสันกำลังสูญเสียความเป็นตัวเอง



แบมแบมสะบัดตัวออกแล้วเอนตัวลงนอนที่ตักของแจ็คสันแทน   ชายหนุ่มก้มหน้ามองดวงตากลมโตที่กำลังมองมาที่เขาเช่นเดียวกัน  แจ็คสันเห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่ในลูกแก้วคู่นั้น  เช่นเดียวกับที่จักษุของเขาที่สะท้อนภาพของเด็กชายเสมอ



“วันนี้ขอบคุณนะที่พาไปเที่ยว” เสียงใสเอ่ยขึ้นมาก่อนท่ามกลางความเงียบที่เริ่มโรยตัว  คนพูดเก่งสองคนเมื่ออยู่กันเพียงลำพังกลับไม่มีบทสนทนาโหวกเหวกอย่างที่คนอื่นคะเน  มีเพียงการกระทำอ่อนโยนที่สื่อสารแทนถ้อยคำไร้สรรพเสียงเหล่านั้น



แจ็คสันยิ้มบาง  “แบมก็รู้ว่าพี่เต็มใจ”



สำหรับชายหนุ่มแล้ว  ความสุขของแบมแบมคือคำตอบของทุกคำถาม  ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้เป็นเจ้าของรอยยิ้มที่กำลังส่งมาให้เขาจากมุมนี้   เขาก้มหน้าลงไปจนปลายจมูกของแจ็คสันแตะบางเบากับปลายจมูกของคนตัวเล็กบนตัก  ริมฝีปากอิ่มเอื้อนเอ่ยถ้อยคำขออนุญาต  “ขอรางวัลหน่อยได้มั้ยครับ”



คำตอบของแบมแบมคือเปลือกตาที่พริ้มลง



เพราะสำหรับเด็กหนุ่มแล้ว  หวังแจ็คสันก็คือคำตอบที่ถูกต้องของเขาเสมอ



และคงจะเป็นเช่นนี้ไปทุกตรุษจีน.






End.








talk about me > #ฟิคอลจ

February 05, 2015

MarkJin | Whisper





 

 

 

 

 

 

 

(OS) WHISPER












จินยองชอบด่าผมอยู่เรื่อยว่าเป็นโรคจิต



‘โรคจิต’ ในความหมายของปาร์คจินยองก็หมายถึงการที่ผมชอบแอบจับแก้มเขา  ตบก้นเขาบ้าง  ส่งสายตาวาบหวาม  มอบจุมพิตบางเบา  จินยองจะแหวเสียงดังขึ้นมาทุกครั้งที่โดนผมแกล้งแบบนั้น  คราวนี้ก็ใช่



“พี่เป็นบ้าอะไรมาเป่าหูผม!” คนน่ารักพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทันทีที่เราเข้ามาในห้องพักหลังเวที  แฟนไซน์จบลงแล้ว  แต่อารมณ์โกรธของจินยองเพิ่งเริ่มต้น  เรียกได้ว่าเด็กน้อยของผมต้องเก็บอาการอยู่หลายนาทีเลยทีเดียวเพื่อจะมาบึ้มใส่ผมทีหลัง  ริมฝีปากบางเบะออกน้อยๆ บอกให้รู้ว่าไม่พอใจ  แถมยังเบี่ยงตัวหนีสัมผัสเมื่อผมพยายามจะเข้าไปกอด  “ไม่ต้องมาแตะตัวเลย  พี่มาร์คแม่งโรคจิต”



โรคจิตอีกแล้ว



ผมยิ้มมุมปากพลางกอดอกมองคนรักที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่มุมห้อง  “โกรธขนาดนั้นเลยเหรอครับ”



คิ้วของจินยองคลายปมออกมานิดหน่อย  แต่หน้าก็ยังเชิดอยู่ดี  “ไม่เชิง  แค่ไม่ชอบ”



“ทำไมล่ะครับ” ผมก้าวเข้าไปประชิด  อาศัยจังหวะที่จินยองเผลอรั้งเอวบางเข้ามาใกล้   แก้มของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ  น่าเอ็นดูจนเกือบเผลอฝังจมูกลงไป  แต่นึกขึ้นได้ว่าคดีแรกยังไม่พ้นโทษก็เลยทำได้แค่มอง



“ต่อหน้าแฟนเยอะแยะ  พี่ไม่อายเขาเหรอ”



“ไม่อาย”



จินยองอ้าปากอ้างกับคำตอบหน้าด้านๆ ของผม   เขาพยายามจะแกะมือปลาหมึกของผมออก  โทษทีนะ  แต่เรื่องแบบนี้ผมเซียนกว่าเยอะ



“นี่จินยอง  อยากให้พี่เลิกแกล้งแบบนี้หรือเปล่าล่ะ   พี่ทำให้ก็ได้นะ  แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”



“อ..อะไร” น้ำเสียงของจินยองฉายแววความไม่ไว้ใจออกมาอย่างชัดเจน



ผมยกยิ้ม  “จินยองก็แค่...  เลิกทำตัวน่ารักตลอดเวลา  เลิกยิ้มหวาน  เลิกหน้าแดงเวลาพี่อยู่ใกล้ๆ  ถ้าทำได้พี่ก็จะเลิกแกล้งเราเหมือนกัน”



“ขี้โกง” คนน่ารักขยับปากต่อว่ามุบมิบ   แต่ผมรู้เลยว่าเขากำลังเขินมาก  หัวใจของจินยองที่แนบอยู่กับอกผมเต้นรัวเร็วจนน่ากลัวว่าจะวายไปเสียก่อน



“ผู้ชายยิ่งแกล้งก็แปลว่าเขายิ่งชอบนะจินยอง”



นอกจากแก้ม  หูของจินยองก็เปลี่ยนเป็นสีแดงจัดแล้วทีนี้  ใครทนไหวก็ทน  แต่ไม่ใช่ผมคนนี้แน่นอน  



ผมอมยิ้มแล้วยื่นริมฝีปากไปแนบชิดข้างใบหูนิ่ม  จินยองตัวแข็งทื่อเหมือนจะรอฟังว่าผมจะพูดอะไรต่อ  แต่กลับได้รับลมร้อนๆ ที่เป่าเข้ามาในหูเหมือนตอนอยู่บนเวทีอีกครั้ง



“ไอ้บ้า  ไอ้โรคจิต!”



          ถ้าถามว่าทำไมชอบทำแบบนี้  เพราะในพจนานุกรมของมาร์คต้วน  ผู้ชายด่าก็แปลว่าผู้ชายรักเหมือนกัน  :-)




END


talk about me at  #ฟิคอลจ