Title :: Mist (2Jae version)
Author :: AliceJay
Genre :: Drama | PG-13
Pairing :: Jaebum/Youngjae
คุณรู้ดีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อพบว่าตัวเองเผลออ่านบรรทัดแรกของนิยายเล่มใหม่ซ้ำเป็นรอบที่สาม
อิมแจบอมถอนหายใจ ตัดสินใจยอมแพ้เมื่อสมาธิตอนนี้เท่ากับศูนย์
ปิดหนังสือลง
ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงไปยังระเบียง
คาบบุหรี่ไว้
จุดไฟ
แล้วปล่อยให้ความอึดอัดภายในจิตใจลอยฟุ้งขึ้นไปในอากาศ
ไม่ถึงกับเทา ไม่ถึงกับขาว เป็นเพียงกลุ่มควันสีทึมๆ ที่สลายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อปะทะกับลมที่พัดผ่านมา
นึกอยากให้ความทุกข์สูญสลายง่ายดายเหมือนควันบุหรี่ แต่เรื่องจริงมันไม่ง่าย
‘ชีวิตไม่เคยง่าย’ ใครสักคนบอกเขาไว้เช่นนั้น
แจบอมเพิ่งจะเข้าใจหมายความที่ถ่องแท้ของวลีนั้นเมื่อไม่นานมานี้เอง
บุหรี่หมดมวน
เศษขี้เถ้าตกระเกะระกะอยู่บนพื้นระเบียง
แจบอมเอาเท้าปัดๆ ให้มันตกลงไปด้านล่าง เพิกเฉยความจริงที่ว่ามันอาจจะร่วงใส่ศีรษะของใครสักคนที่บังเอิญเดินผ่านมา
ช่างแม่ง
เขาไม่สนหรอก บนโลกนี้สมควรมีคนซวยเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย
ความจริงที่ว่าเขากำลังเผชิญกับ ‘อาการอกหัก’ ทำให้แจบอมพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อถ่ายเทความเจ็บปวดที่มีอยู่ล้นอกออกไปสู่ผู้อื่นบ้าง แม้ในทางปฏิบัติแล้วมันไม่อาจบรรเทาความเสียใจของเขาได้เลย
ไม่แม้แต่สักเศษเสี้ยว
“เหี้ยเอ้ย” เขาสบถ ในอกปั่นป่วนเสียเจียนบ้า
การเลิกราหมายถึงการยุติความสัมพันธ์ฉันท์คนรัก
แล้วกับเขาที่ไม่ได้เป็นคนรักแล้วแต่ยังรู้สึกอยู่นี่ควรทำอย่างไร
ถอยออกมาไม่ได้ เดินต่อไปก็เจอแต่ทางตัน
ได้แต่หยุดค้างอยู่ในระนาบเวลาที่ไร้จุดสิ้นสุด
ความสัมพันธ์ที่ยังลืมไม่ลงของคนยังรัก
อิมแจบอมตกอยู่ในสภาวะนี้มาแรมเดือนแล้ว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
แจบอมเลียริมฝีปากแล้วกดรับเมื่อหน้าจอโชว์เบอร์ที่คุ้นเคย
(“ไงมึง ยังอยู่ดีนะ”)
“เออสิ”
(“ดีแล้ว วันก่อนมีคนเห็นมึงไปดื่มคนเดียวเลยกลัวว่ามึงยังคิดมากเรื่องยองแจอยู่”)
ชื่อแฟนเก่ามีผลต่อคนที่แผลยังไม่สมานมากกว่าที่คิด แจบอมตอบกลับด้วยน้ำเสียงร่าเริงเพื่อกลบความเสียใจระรอกใหม่ที่ตีขึ้นมาในอก “กูเป็นคนบอกเลิกเขาเองนะ แล้วทำไมกูต้องเสียใจวะ”
เขาได้ยินเสียงหวังแจ็คสันถอนหายใจ
แจบอมโกหกไม่เก่งหรอก แต่เขาหวังว่าเพื่อนจะรักเขามากพอจนยอมเชื่อ
ไม่อยากตอบคำถามอีกแล้วว่าทำไมไม่กลับไปทั้งๆ ที่ยังรักมากอยู่
ลำพังความรักที่ปราศจากการเข้ากันได้มันไม่เวิร์คหรอก
แจบอมไม่อยากกลับไปคบฆ่าเวลาเพื่อที่จะเลิกราอีกหน
(“งั้นก็ดี มึงรู้ยังว่ายองแจมีแฟนใหม่แล้วนะ”)
เงียบ เงียบมาก เงียบจนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
เหมือนประสาทการรับรู้ของแจบอมถูกปิดลง
ยองแจมีแฟนใหม่แล้วนะ
หมอนั่นกล้าดียังไง
อิมแจบอมเป็นคนคอแข็ง
แต่ต่อให้คอแข็งแค่ไหนก็เมาได้หากไม่ยอมยั้งมือ
เขาปลอบใจตัวเองว่าที่มาดื่มเป็นเพราะคิดงานไม่ออกเท่านั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับอาการปวดหนึบในหัวใจเมื่อรู้ว่าแฟนเก่าของตัวเองเพิ่งกลายเป็นแฟนใหม่ของใครสักคน
มันเจ็บปวดเกินไป
“เมามากแล้วนะครับ กลับบ้านก่อนมั้ย”
แจบอมผงกหัวขึ้นจากเคาท์เตอร์บาร์ สายตาโฟกัสอะไรไม่ได้ทั้งนั้น บาเทนเดอร์หนุ่มจึงกลายร่างเป็นปีศาจที่มีสามหัวและสิบแขน
ยังไม่ทันจะตอบอะไร เสียงใสๆ ก็ดังขึ้นมา แจบอมจับใจความไม่ได้ รู้แค่ร่างกายของตนถูกพยุงมาขึ้นรถหลังจากนั้น
ประสาทสัมผัสที่ทำงานได้ดีที่สุดในขณะนี้คือจมูก
กลิ่นวนิลลาที่อวลไปทั้งรถทำให้เขาระลึกได้ว่าคนที่นั่งเบาะข้างๆ คือใคร
“ยองแจ” เขาพึมพำ และนั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนจะจมสู่ห้วงนิทรา
“ทำไมเมาขนาดนี้” ยองแจไม่ได้ตั้งคำถามกับคนเมา ชายหนุ่มแค่บ่นไปเรื่อยเปื่อยตามประสา คิ้วเข้มขมวดมุ่นพลางเหลือบมองคนก่อเรื่องที่ผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอไปแล้ว
ร่างเล็กแบกร่างของแฟนเก่าไปส่งที่ห้องอย่างทุลักทุเล จัดแจงเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แล้วจึงถอยออกมาให้อีกฝ่ายได้พักผ่อน
ปรายตามองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นที่คุ้นตา บัดนี้กลับอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้ หนังสือหลายเล่มถูกกองระเกะระกะอยู่บนพื้น ข้างกันมีเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ที่เขี่ยบุหรี่ที่มีก้นกรองล้นออกมา นิยามสั้นๆ ที่ยองแจมีให้คือคำว่า ‘เละ’
ทั้งๆ ที่อิมแจบอมเป็นคนบอกเลิกเขาแท้ๆ
ทั้งๆ ที่หมอนั่นบอกว่าจะไม่มีวันเสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว
ทั้งๆ ที่บอกเองว่าอยู่ได้สบายมากโดยไม่มีเขา
ทุกอย่างที่อิมแจบอมเคยว่าไว้ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ยองแจเห็นทุกประการ
แจบอมไม่มีความสุข
และนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากเห็นบนโลกใบนี้
ปวดหัวแทบระเบิดแน่ะ
แจบอมลากสังขารตัวเองขึ้นมาแล้วพุ่งไปยังห้องน้ำ จัดแจงอาเจียนเอาของเสียออกจนแทบไม่มีแรง เขาบ้วนปากแล้วโซเซเดินไปห้องครัว กะว่าจะรินน้ำให้ตัวเองสักแก้วแล้วจะไปนอนต่อ แต่กลับตื่นเต็มตาหลังจากเห็นห้องนั่งเล่นที่เคยดูไม่ได้กลับมาสะอาดเอี่ยมอ่อง เสื้อผ้าถูกเก็บไปซักและตากให้เป็นอย่างดี จานชามที่กองไว้จนพะเนินหายวับไปจากอ่างล้างจานเรียบร้อยราวกับมีเวทมนตร์
และบนโต๊ะมีอาหารง่ายๆ พร้อมกับโน้ตลายมือคุ้นตา
‘กินซะ แก้แฮงก์’
แจบอมไม่ได้ฝัน
ยองแจมาส่งเขาจริงๆ
จัดแจงอุ่นซุปหน้าตาโง่เง่าให้มันร้อนขึ้น ยองแจไม่ได้หุงข้าวให้เพราะไม่มีข้าวสารเหลือ
กลิ่นหอมโชยมาอ่อนๆ พร้อมกับของเหลวในหม้อที่เดือดปุดๆ
ดับไฟ
ตักซุปใสใส่ชามขนาดกลางแล้ววางไว้บนโต๊ะอาหาร
ไม่ถึงกับเทา ไม่ถึงกับขาว เป็นเพียงกลุ่มควันสีทึมๆ ที่สลายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อปะทะกับลมหายใจ
โน้ตใบที่สองแปะอยู่ข้างโน้ตใบแรก ยองแจบอกให้เขา ‘รักษาสัญญาที่ให้ไว้ด้วยล่ะ’
สัญญา?
สัญญาอะไรนะ?
ที่บอกว่าจะไม่มีวันร้องไห้ให้กับความรักที่มันพังเด็ดขาดน่ะเหรอ?
จริงๆ ก็ทำได้อยู่นะ แจบอมไม่เคยร้องไห้เลย ไม่ว่าจะเสียใจแค่ไหนก็ตาม
จนกระทั่งตักซุปเข้าปากช้อนแรกนั่นแหละ
แล้วสัญญาอะไรอีกนะ?
ที่บอกว่าจะใช้ชีวิตที่ไม่มีชเวยองแจอย่างมีความสุขน่ะเหรอ?
แล้วใครบอกว่าแจบอมไม่มีความสุขกันล่ะ เขาสบายจะตาย
จนกระทั่งรับรู้ว่าคนที่อยากเห็นเขามีความสุขหนีไปมีความสุขก่อนเขานั่นแหละ
เหมือนจะมีอีกข้อที่สัญญาเอาไว้
คิดถึงกันบ้างนะ
ชเวยองแจคงดีใจตายเลยถ้ารู้ว่าเขารักษาสัญญาข้อนี้ได้ดีที่สุด
เพราะนับตั้งแต่เลิกกัน ยังไม่มีวินาทีไหนเลยที่เขาไม่คิดถึงเด็กคนนั้น
โน้ตแผ่นสุดท้ายถูกแปะไว้เรียงต่อจากแผ่นที่สอง
ก่อนหน้าน้ำหมึกจะถูกละลายด้วยน้ำตา ข้อความบนนั้นเขียนเอาไว้ว่า ‘ขอโทษ’
ขอโทษที่กลับมาไม่ได้
ไม่ใช่ไม่รัก แต่ยองแจก็ใจร้ายทิ้งคนที่เพิ่งรับเข้ามาในชีวิตไม่ได้เช่นกัน
กฎของเวลาคือไม่สามารถย้อนกลับไปเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตได้อีกแล้ว
วางช้อนลง
ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงไปยังระเบียง
คาบบุหรี่ไว้
จุดไฟ
แล้วปล่อยให้ความอึดอัดภายในจิตใจลอยฟุ้งขึ้นไปในอากาศ
ไม่ถึงกับเทา ไม่ถึงกับขาว เป็นเพียงกลุ่มควันสีทึมๆ ที่สลายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อปะทะกับลมที่พัดผ่านมา
แจบอมได้แต่รอเวลา
และหวังว่าสักวันน้ำตาของเขาจะจางหายไปเช่นกัน.
FIN