October 24, 2018

MARKJIN | If you need it




MARK x JINYOUNG
















มาร์ครู้ว่าจินยองต้องการอะไรตอนที่อีกฝ่ายปีนขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของตัวเอง














ผิวเนื้อเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มเสียดสีอยู่กับร่างกายที่ยังปกคลุมไปด้วยเสื้อผ้าชิ้นหนา จินยองไล้มือไปตามกรอบหน้าของเขา เลื้อยลงมาตามแผ่นอก แวะลูบคลำในจุดที่ทำให้ร่างกายปั่นป่วน














“อารมณ์ไหน” มาร์คเอ่ยถามคนที่กำลังเล่นสนุกอยู่บนร่างกายเขา ชายหนุ่มเพิ่งกลับมาจากทำธุระนอกบ้าน ทั้งหอเหลือเพียงเขาและคนเด็กกว่า จินยองเปลี่ยนห้องนั่งเล่นที่แสนจะเงียบเหงาให้เคล้าไปด้วยกลิ่นหอมจากเทียน ไฟทุกดวงถูกปิด มีเพียงแสงวับๆ แวมๆ จากเปลวเทียนส่องให้ความสว่างเท่านั้น














แต่กระนั้นภาพของจินยองที่กำลังขยับร่อนไปตามทำนองเพลงแจ๊สที่ถูกเปิดทิ้งไว้ก็ยังชัดเจนอยู่ดีในสายตาเขา














อีกฝ่ายเหลือบตาขึ้นมาสบ กดยิ้มมุมปากอย่างที่ชอบทำ แล้วประทับจูบอุ่นๆ บนอกข้างซ้ายก่อนตอบ “อารมณ์ดี”














“ดีมากไหม”














“ดีมาก” จินยองว่า น้ำเสียงฟังดูกำลังสนุกอย่างที่เจ้าตัวบอก “แต่จะดีมากกว่านี้ถ้าพี่ถอดเสื้อออกหน่อย”














มาร์คหัวเราะ ยอมโยนฮู้ดตัวโปรดลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มสบตาคนรักอย่างนึกสนุกขึ้นมาบ้าง “ต้องถอดกางเกงด้วยหรือเปล่า”














จินยองยิ้มยั่ว “ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าพี่อยากใช้มันไหม”














คนแก่กว่ารู้ดีว่ามันคืออะไร ในเมื่อมันคือของเล่นชิ้นโปรดของปาร์คจินยอง














เขาถึงได้อยากแกล้ง...














“แล้วจินยองอยากได้มันหรือเปล่าล่ะ”














“อยากได้สิครับ” เด็กหนุ่มว่า ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากเข้ามาชิดใบหู เอื้อนเอ่ยประโยคสั้นๆ ที่ทำให้ทั้งห้องลุกเป็นไฟ “อยากโดนพี่รักแรงๆ จะแย่อยู่แล้ว”





















































































































มาร์ครู้ว่าจินยองต้องการอะไรตอนที่อีกฝ่ายแลบลิ้นออกมา














เขาดูดเบาๆ ที่ปลายลิ้นซน ก่อนจะตามไปประกบจูบ แลกเปลี่ยนลมหายใจ ผูกก้านเชอร์รี่ในปาก














จินยองเป็นคนจูบเก่ง ทั้งยังชอบที่จะเป็นคนควบคุมเกมจูบ มาร์คไม่ว่า รู้สึกสนุกดีเสียด้วยซ้ำที่ได้เห็นมุมพยศของคนรัก พวกเขาจูบกันเนิ่นนานเช่นคนที่รู้จังหวะของกันและกันดี มาร์คถอนริมฝีปากออกเมื่อรู้สึกว่าได้เวลาที่เกมต้องดำเนินต่อไป เขาอาจจะจูบแพ้จินยอง แต่มาร์คเป็นนักเล้าโลมชั้นเยี่ยม














ตอหนวดที่เพิ่งขึ้นเหนือริมฝีปากเรียกเสียงร้องให้ดังกว่าที่เคย จินยองบ่นเสมอว่าไม่ชอบ แต่ยามที่มาร์คกดจูบร้อนๆ ไปบนผิวเนื้อบอบบางก็ไม่เห็นอีกฝ่ายจะว่าอะไร แถมยังบิดกายไปมาราวกับสยิวนักหนา มาร์คก็เลยเลือกที่จะดูดแรงๆ บนตุ่มไตที่ลอยยั่วตาเขาอยู่














“เสียว”














ไม่ต้องบอกมาร์คก็รู้ น้ำตาที่คลอเบ้า หน้าท้องที่แขม่วเกร็ง ร่างกายของปาร์คจินยองกำลังสารภาพกับเขาทุกอย่าง มาร์คเลยยิ่งเอาใจด้วยการละเลงลิ้นช้าๆ รอบฐาน ส่วนอีกด้านก็ใช้นิ้วสะกิดถี่ เล่นเอาจินยองดิ้นพล่าน จิกผมเขาจนเจ็บไปหมด














ยิ่งดิ้น ก็ยิ่งเสียดสี


ยิ่งเสียดสี ก็ยิ่งขยาย














“เยิ้มไปหมดแล้ว” คนที่อยู่บนตักว่าเมื่อน้ำใสจากส่วนแข็งขืนไหลมาเปียกจนขาเปรอะ














“แย่จัง” มาร์คยิ้มกริ่ม กระทุ้งกายเบาๆ เพื่อให้ความร้อนผ่าวเสียดสีกับโคนขาขาวอีกครั้ง “เห็นทีต้องทำความสะอาด”














































































































มาร์ครู้ว่าจินยองต้องการอะไรตอนที่อีกฝ่ายลงไปนั่งคุกเข่าบนพื้น














เส้นไหมสีน้ำตาลอ่อนถูไถกับผิวเนื้อด้านในของต้นขา ทิ้งสัมผัสจั๊กจี้เอาไว้ทุกครั้งที่อีกฝ่ายขยับศีรษะ แต่ความหวาบหวิวตรงโคนขาเทียบไม่ได้เลยกับความปั่นป่วนในช่องท้องตอนนี้ ปาร์คจินยองเหมือนคลื่นที่ถาโถม เล่นเอาสติกระจัดกระจาย ทรงตัวแทบจะไม่ไหว














ร้อน














ริมฝีปากหวานหยดนั่นรุ่มร้อนจนมาร์คแทบคลั่ง ความสากจากปลายลิ้นซุกซนทำให้ลมหายใจของเขาติดขัด ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจโอบอุ้มเขาจนส่วนปลายแตะลึกถึงด้านในลำคอ วิญญาณของมาร์คก็ราวกับโดนฉีกทึ้ง














“พอก่อน” เขาบอกเสียงหอบ ยกนิ้วสั่นๆ ของตัวเองไปปาดคราบน้ำลายที่เปรอะเยิ้มกลีบปากอิ่มคู่นั้น “ขอเปลี่ยนท่า”














มาร์คไถลตัวลงจากโซฟาในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอน แล้วตบขาเรียกจินยองให้กลับมาประจำที่














“ไม่ใช่” เขาเอ่ยบอกเมื่อจินยองขึ้นมานั่งคร่อมอย่างที่เคย “หนูหันสะโพกมาทางพี่”














แม้จะเป็นคนจัดจ้าน แต่อาการกัดปากกลั้นเขินนั่นก็น่าเอ็นดูจนมาร์คอดไม่ได้ที่จะแตะจมูกลงไปแก้มนุ่มหนึ่งที














“เด็กดี” มาร์คชม ไล่ริมฝีปากจากแก้มมายังลำคอ ขบเม้มเบาๆ จนขึ้นเป็นสีระเรื่อ “เดี๋ยวพี่จะให้รางวัล”














ปาร์คจินยองหมุนตัวกลับไปตามคำสั่ง ร่างกายโก้งโค้ง สะโพกมนลอยอยู่ระดับสายตาของชายหนุ่ม ไม่ยากเลยที่มาร์คจะก้มลงไป














…ใช้ลิ้นเลีย














จนจินยองร้องออกมาไม่เป็นภาษา














ยิ่งลงลิ้น สะโพกกลมกลึงก็ยิ่งดิ้น


ยิ่งดิ้น มาร์คก็ยิ่งสอดลึก














นิ้วแรก


นิ้วที่สอง


นิ้วที่สาม














เสียงเจลหล่อลื่นกระทบกับผิวเนื้อฟังดูเฉอะแฉะ แฉะพอๆ กับเสียงน้ำลายและไอศกรีมแท่งโปรดด้านหน้า ร่างกายของปาร์คจินยองกระตุกเกร็งเมื่อมวลคลื่นอารมณ์ซัดสาดจนลมหายใจติดขัด มันมากขึ้น มากขึ้น














แล้วปาร์คจินยองก็แตก


…สลายไปเมื่อมาร์คหยุดทุกอย่าง ปล่อยให้จินยองทรุดตัวนอนหอบอยู่แทบปลายเท้าของตัวเอง














“อย่าเพิ่งรีบ พี่ยังอยากให้เราสนุกไปด้วยกันอีกนาน”










































































































มาร์ครู้ว่าจินยองต้องการอะไรตอนที่อีกฝ่ายแยกขาออกจากกันอย่างเชื้อเชิญ














เจ้าของเตียงนอนสีเทาเข้มกระตุกยิ้มมุมปาก ก้มตัวไปจูบตั้งแต่ต้นขาไล่มาจนจรดปลายเท้า การกระทำที่ทำเอาคนถูกปรนนิบัติหน้าแดงทุกครั้ง














“ขออนุญาตนะครับ” มาร์คว่า ก่อนจะ














สอด...














ไปจน














...สุด














จินยองอ้าปากค้าง มีเพียงเสียงประหลาดในลำคอที่ดังออกมา มาร์คฟังไม่ได้ศัพท์ โฟกัสของเขาตอนนี้คือการขยับสั้นๆ สลับกับการควงเอวไปมาเพื่อให้แรงบีบรัดนี้ลดลง














“ไหวไหม”














“ไหว” อีกฝ่ายพยักหน้า พวกเขาไม่ได้ร่วมรักกันบ่อยเพราะตารางงานที่แน่นมาก อีกทั้งจังหวะดีๆ ที่จะอยู่กันสองต่อสองก็หาได้ยาก จินยองไม่ชอบทำตอนที่มีสมาชิกคนอื่นอยู่ด้วย มากสุดที่ให้ก็แค่ใช้ปากหรือมือ เด็กดีของเขาไม่ชอบโดนใครล้อเวลาเสียงแหบในวันรุ่งขึ้น














ปาร์คจินยองน่ะเป็นประเภทเก็บเสียงครางไม่ค่อยได้














มาร์ครวบมือที่จิกหมอนแน่นไปไว้เหนือศีรษะกลม จุมพิตอีกทีแล้วว่า “เอาแล้วนะ”














เด็กหนุ่มยิ้ม “เอาสิครับ"














ใครสักคนปิดเพลงแจ๊ส แล้วเปลี่ยนเป็นจังหวะที่หนักขึ้น














จินยองหอบหายใจ อ้าปากส่งเสียงร้องจนคอแห้ง เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายขึ้นมาจนร่างกายชื้นแฉะ แรงส่งของมาร์คทำให้สายตาเขาโฟกัสอะไรไม่ได้ ได้แต่หลับตาแล้วปล่อยให้ห้วงอารมณ์นำพาไปเท่านั้น














“หนู ลืมตาหน่อย” มาร์คจูบที่ข้างแก้ม เลยไปกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู “On your hands and knees”














จินยองพลิกตัวคว่ำตามคำสั่ง มาร์คเข้ามาประจำที่ ขยับขาให้แยกออกกว้างอีกหน่อย แล้วจับสะโพกอิ่มเอาไว้มั่น เขาไล้ของร้อนไปทั่ว จงใจเอามันฟาดเบาๆ ที่เนินเนื้อนุ่ม แต่ไม่ยอมสอดมันเข้าไปแม้ตัวเองจะต้องการมากแค่ไหน










นั่นเพราะมาร์คชอบ...














“เลิกเล่นได้แล้ว”














“งั้นหนูอยากให้พี่ทำอะไร”














“ใส่มันเข้ามา อึก” อีกฝ่ายเสียงสั่น ลมหายใจยังหอบหนัก “แล้วกระแทก กระแทกแรงๆ”














…dirty talk ของปาร์คจินยองยามที่อารมณ์อยู่เหนือสติสัมปะชัญญะทั้งปวง














































































































มาร์ครู้ว่าจินยองต้องการอะไรตอนที่อีกฝ่ายปีนขึ้นมานั่งคร่อมบนตักอีกครั้ง














พวกเขาทั้งคู่เหงื่อท่วมตัว แต่เกมรักยังไม่สิ้นสุด














“เอาสิ” มาร์คว่า “ทำเลย”














เช่นนั้นจินยองจึงกดตัวเองลงมาในแนวดิ่ง ใบหน้าหวานเหยเก บอกไม่ได้ว่าเจ็บปวดหรือเสียวซ่าน “พี่อย่าเพิ่งสวนขึ้นมานะ เดี๋ยวจุก”














คนโดนร้องขอพยักหน้ารับ แล้วเฝ้ามองผีเสื้อตัวน้อยร่ายรำอยู่บนตักตัวเอง














จินยองขยับกายอย่างชำนาญ หวีดร้องทุกครั้งที่กดโดนบางจุดภายในร่างกายของตัวเอง คนเด็กกว่าหอบหนัก พยายามโถมกายอยู่สักพักก็หมดแรง เปลี่ยนมาเป็นร่อนเอวช้าๆ แทน














ตอนนั้นเองที่มาร์คตัดสินใจช่วย














“กอดคอพี่” เขาว่าพลางช้อนใต้ขาของอีกฝ่ายไว้ ใบหน้าหวานซบอยู่ที่ไหล่เขา เหงื่อท่วม ไร้เรี่ยวแรงจะพูด กลายเป็นตอนนี้จินยองกอดเขาแน่นเป็นลูกลิง














พ่อทูนหัวลิงอย่างเขาจึงลุกขึ้นยืนแล้ว














…อุ้ม














โยกกายสอดลึก














เข้า


ออก


เข้า


และออก














จนทุกอย่างทะลักทลาย ทิ้งไว้แค่เสียงครางจนแทบขาดใจของคนโดนอุ้ม






































































































มาร์ครู้ว่าจินยองต้องการอะไรตอนที่อีกฝ่ายพลิกตัวเข้ามากอด














ความสัมพันธ์ช่วงนี้ของพวกเขาหวานชื่นจนใครๆ ก็อิจฉา จินยองน่ารัก แถมยังอ้อนเก่งเป็นที่หนึ่ง ยิ่งพื้นฐานมาร์คเป็นคนแพ้ของน่ารักอยู่แล้ว พอมาเจอจินยองในโหมดนี้เลยยิ่งแพ้ไปกันใหญ่














“เหนื่อยไหม”














“เหนื่อยสิ” เด็กหนุ่มตอบแทบจะทันที “มาร์คแข็งแรงมาก เพราะช่วงนี้เข้ายิมแหงๆ”














เขาหัวเราะ เรื่องหลอกล่อให้เขาไปออกกำลังกายล่ะเก่งที่หนึ่ง จริงๆ จินยองก็แค่หงุดหงิดที่เขาติดเกมจนไม่มีเวลาให้ใครก็เท่านั้น














“แล้วไปกินข้าวกับพี่สาวมาเป็นไงบ้าง”














“ก็ดีนะ แต่โดนพี่โบยองบ่นนิดหน่อยเรื่องมาร์คด้วย”














“หืม ทำไมล่ะ”














“พี่เขาบอกว่าผมดื้อ แล้วก็เอาแต่ใจกับมาร์คอยู่เรื่อย”














“พี่เขารู้ได้ไง”














“เขาบอกว่าดูรายการหรือแฟนแคมก็รู้แล้ว แถมมาร์คยังเอาใจเก่งจนออกนอกหน้า”














มาร์คหัวเราะอีก “ก็บอกพี่เขาไปสิว่าพี่เต็มใจจะตามใจ”














“บอกแล้ว” จินยองเบ้หน้า หน้าตาดื้อจนอยากจับฟัดให้จมเขี้ยว “แต่พี่โบยองบอกว่าเป็นแฟนกันก็อย่าเอาแต่ใจอยู่ฝ่ายเดียว ต้องหัดตามใจอีกฝ่ายบ้าง เดี๋ยวจะเบื่อกันไปเสียก่อน”














มาร์คพยักหน้า เข้าใจได้ทันทีว่าเหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร เขาแปลกใจตั้งแต่กลับมาบ้านแล้วเจอคนรักสวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำแล้ว ไหนจะบรรยากาศที่โรแมนติกเกินเรื่อง ไหนจะเป็นฝ่ายเริ่มรุกเขาก่อน














ปาร์คจินยองก็มีช่วงเวลาที่หวั่นไหว














“กลับไปบอกพี่โบยองนะว่าพี่มีความสุขดีที่ได้ตามใจจินยองแบบนี้ จินยองไม่ได้เป็นฝ่ายรับอยู่อย่างเดียว เพราะเวลาที่หนูมีความสุข พี่ก็มีความสุขด้วย ถือว่าเจ๊ากัน เข้าใจไหมครับ”














คนเด็กกว่านิ่งไปก่อนจะยืดตัวขึ้นมาจูบแก้มเขาเบาๆ “เนี่ย ก็เป็นเสียอย่างนี้”














“ไม่ดีเหรอ”














“ก็ดี”














“เพราะพี่รัก พี่เลยตามใจ”














“งั้นตามใจอีกอย่างได้ไหม” จินยองว่า แววตาพราวระยับ พร้อมกันกับที่นิ้วซนเคลื่อนต่ำไปยังจุดที่เรียกเสียงครางเบาๆ จากมาร์คได้ “เหนื่อย อาบน้ำเองไม่ไหวแล้ว”














เนี่ย น่ารักขนาดนี้แล้วจะให้เลิกตามใจเด็กดื้อได้อย่างไรไหว


































END














TALK






คุยกันใน #ฟิคอลจ จ้า :)


หรือตามไปเมนท์ได้ที่ >> คลิก