Title :: Fallen Angel
Author :: AliceJay
Pairing :: Jaebum / Youngjae
Fallen Angel
(2Jae version)
(2Jae version)
‘น่ารัก นิสัยดี ใสซื่อ ดูไม่มีพิษสงใดๆ ให้เกรงขาม’
คำนิยามที่เหล่าแฟนคลับและนักข่าวพร้อมใจกันตั้งให้ ‘ชเวยองแจ’ มาตั้งแต่เข้าวงการ
หากแต่ใครจะรู้ว่าถ้ามีคนกล้ามายุ่งกับคนของเขา
คุณอาจจะได้เห็นนางร้ายชั้นแนวหน้าในร่างของหนุ่มน้อยคนนี้ก็เป็นได้
ไม่เชื่อหรือ?
ก็ลองยั่ว ‘อิมแจบอม’ ดูสิ ..
::::::::::::::::::::::
ทำไมอิมแจบอมถึงได้เลือกชเวยองแจ?
คำถามยอดฮิตที่ใครหลายคนแอบสงสัยอยู่ในใจ ‘อิมแจบอม’ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงทายาทกิจการนำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของเกาหลีกับเซเลบหนุ่มหน้าหวานอย่างยองแจดูยังไงก็ไม่เข้ากันสักนิด
แจบอมเจ้าชู้เกินไป และยองแจก็ดูซื่อจนไม่น่าจะตามทันอีกฝ่าย
ถ้าเปรียบอิมแจบอมเป็นไฟ ยองแจก็คงเป็นน้ำ ไม่มีคุณสมบัติข้อไหนที่ระบุได้ว่าคนทั้งคู่น่าจะไปกันรอดเกินสองเดือน แต่นอกจากจะหักทุกปากกาเซียนด้วยการคบกันยาวนานกว่าสามปีแล้ว คู่รักคนดังคู่นี้ยังควงกันโชว์หวานอย่างเปิดเผย ไม่แคร์ขาเม้าท์หน้าไหนทั้งสิ้นอีกต่างหาก
เป็นที่รู้กันดีว่าสังคมเกาหลียังไม่มีพื้นที่มากนักให้กับความรักที่ไม่ใช่ชายหญิง ดังนั้นเมื่อคราวที่พวกเขายอมเปิดเผยความสัมพันธ์ต่อสาธารณะ เรื่องนี้จึงเป็นข่าวใหญ่มาก เพราะเป็นคนดังคู่แรกๆ ที่ยอมเสี่ยงในการแหวกม่านประเพณีดั้งเดิม แน่นอนว่าทั้งคู่โดนกระแสโจมตีอยู่ไม่น้อย แต่ที่น่าประหลาดใจกว่าคือกระแสสนับสนุนที่มีมากกว่าหลายเท่าตัว
อาจเพราะใครๆ ก็ชอบเรื่องรักต้องห้าม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรักต้องห้ามที่มีตัวเอกราวกับหลุดมาจากเทพนิยายอย่างอิมแจบอม - ผู้ชายร้ายกาจที่ยอมเอาอนาคตของตัวเองมาเดิมพันเพียงเพื่อแลกกับการที่ได้รักชเวยองแจอย่างเปิดเผย
คำถามต่อมาที่ทุกคนพร้อมใจกันตั้งให้เป็นประเด็นร้อนในอินเตอร์เน็ตก็คือ..
แล้วชเวยองแจมีอะไรดีให้น่าเสี่ยงด้วย??
“นั่นสิ คนอย่างชเวยองแจน่ะมีอะไรดี” จินยองถามขึ้นมาเสียงดังๆ เพื่อให้คนที่นอนเล่นไอแพดอยู่ได้ยิน ร่างโปร่งเลื่อนดูความคิดเห็นของบรรดาขาเม้าท์ทั้งหลายที่ต่างโพสความเห็นกันเป็นเสียงเดียวว่า ‘เพราะยองแจน่ารักมากๆ ทั้งหน้าตาและมารยาท นางงามแบบนี้พี่ช๊อบชอบ!’ แล้วก็ได้แต่พรูลมหายใจอย่างคิดค้าน
ถ้าคุณเคยดูซีรีส์เรื่อง ‘You who came from the stars’ คุณคงจะรู้ดีว่าชอนซงอี นางเอกพันหน้าคนนั้นเล่นละครเก่งและแนบเนียนเพียงไร แต่เชื่อเถอะว่าเทียบไม่ได้กับชเวยองแจคนนี้เลยสักนิด... ถ้าซงอีได้รางวัลออสก้าประจำปี ยองแจคงได้รางวัลยูนิเวิร์สเลยกระมัง
จินยองนึกอยากจะแกล้งโพสต์แฉเจ้าตัวเล็กนี่ขึ้นมาตงิดๆ
อะไรจะเป็นคนดีในสายตาเช้าบ้านเขาได้ขนาดนั้น!
“หยุดความคิดบ้าๆ เลยนะพี่จินยอง” ยองแจที่บัดนี้ย้ายมายืนหลังจินยองแล้วพูดออกมา ร่างเล็กเบียดคนที่เป็นทั้งพี่ชายและผู้จัดการส่วนตัวไปให้พ้นหน้าแลปท็อปก่อนจะเชคความคิดเห็นเหล่านั้นเสียเอง
“แต่งตัวให้มันเรียบร้อยนี่มันยากมากหรือไงฮะ” จินยองบ่นอุบขณะไล่สายตามองน้องชายคนเดียวในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งยาวพอจะปิดแค่ต้นขาขาวๆ เท่านั้น
ยองแจยักไหล่อย่างไม่แคร์ “อย่าบ่นน่า อยู่กันสองคนเองไม่มีใครเห็นสักหน่อย”
“เลิกแอ๊บแบ๊วซะทีเหอะ ฉันเห็นแล้วขัดหูขัดตา” ร่างโปร่งกระแทกตัวลงที่โซฟาเนื้อนุ่มแล้วเอ่ยเซ็งๆ
ยองแจหัวเราะ พี่จินยองก็มักจะเป็นแบบนี้เสมอล่ะ ชอบบ่นเป็นคนแก่ แต่งตัวก็เหมือนคนแก่ ถึงได้ไม่มีใครเข้ามาจีบสักที เขาอมยิ้มไปกับความคิดของตัวเองขณะไล่อ่านข้อความในบอร์ดซึ่งเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เชียร์ “ทูแจ” สุดใจขาดดิ้น
เขาอมยิ้มพลันนึกถึงนิยามความรักของตัวเองที่เคยคิดไว้ในใจ
..เทวากับซาตาน..
จะมีอะไรที่ท้าทายและเหมาะสมไปกว่านี้อีกหรือ?
RRRRRrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์เครื่องบางของจินยองดังขึ้น คนเป็นพี่ละสายตาจากหนังสือ Fifty shades of grey แล้วกดรับสายด้วยน้ำเสียงสุภาพ ใช้เวลาเพียงห้าวินาทีรอยยิ้มก็ถูกวาดขึ้นบนใบหน้าหวานพร้อมกับสายตาเยาะแกมเย้ยที่ถูกมาให้เขา
ยองแจกัดฟันกรอด... ไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าทำไมจินยองถึงได้ยิ้มกริ่มขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะมีสายโทรมารายงานเรื่องแจบอมกับผู้หญิงอีกแล้ว จินยองรู้สึกสนุกเสมอกับการที่ได้เห็นยองแจหัวหมุนในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
คุณผู้จัดการส่วนตัววางสายโทรศัพท์แล้วหันมาทางน้องชาย “พี่บอกแล้วว่านางฟ้าน่ะไม่เหมาะกับนิยามของนายหรอก..” ร่างโปร่งวาดรอยยิ้มที่ยองแจแสนจะชิงชังบนใบหน้า “...เพราะนิสัยนายมันน่ะปีศาจชัดๆ!”
ยองแจคลายปมที่ขมวดอยู่ที่คิ้วออกก่อนจะยิ้มอย่างเป็นต่อให้พี่ชาย แววตามีประกายซุกซนอย่างเด็กเจอของเล่นถูกใจ “งั้นคงได้เวลามารออกโรงอีกแล้วสิ”
::::::::::::::::::::::
ยองแจหยิบแว่นตากันแดดสีทึบของตัวเองขึ้นมาใส่ ตาเรียวรีจับจ้องอยู่ที่นางแบบสาวดาวรุ่งที่กำลังเดินควงมากับชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของตนอยู่
“โอ๊ะโอ ... คราวนี้สวยแฮะ” จินยองพูดเสียงยียวนแต่ใบหน้าเรียบเฉย นั่นยิ่งเร้าอารมณ์ให้ยองแจร้อนมากขึ้นไปอีก
“หน้าด้าน รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายเขามีเจ้าของแล้ว” ร่างเล็กสบถเบาๆ แล้วหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาเพื่อต่อสายไปยังร่างสูง
.
.
.
แจบอมที่ยังคงอยู่ในสายตาของยองแจและจินยองหยุดเดินเมื่อรู้สึกว่ามีแรงสั่นน้อยๆ ที่กระเป๋าสูทด้านใน “แปปนะครับ” เขาว่าพลางยิ้มหวานให้กับสาวสวยที่เพิ่งตกมาได้เมื่อวาน แต่แล้วหน้าจอที่โชว์ชื่อของคนรักก็ทำให้รอยยิ้มนั้นค่อยๆ เจื่อนลง
“ใครหรือคะ?” นางแบบสาวถามขึ้นมาทั้งๆ ที่เห็นอยู่เต็มตาว่าชื่อที่อยู่หน้าจอคือใคร
แจบอมเลือกที่จะตอบตามความเป็นจริง “ยองแจน่ะครับ แฟนพี่เอง”
หญิงสาวหน้าเจื่อนไปเล็กน้อยที่แจบอมพูดอะไรไม่ไว้หน้าเธอเลย แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าร่างสูงข้างๆ นี้ไม่มีวันมอบหัวใจให้ใครนอกเสียจากชเวยองแจ ดารารุ่นพี่แถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก แต่ในเมื่อเวลานี้เขากำลังควงอยู่กับเธอ แล้วทำไมเธอต้องยอมด้วยล่ะ
“อย่ารับเลยนะคะ”
แจบอมเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจเจตนา
เธอยิ้มละไม มือเรียวสัมผัสที่ต้นแขนของชายหนุ่มอย่างออดอ้อน “ตอนนี้พี่แจบอมอยู่กับมินอา ให้มีแค่เราไม่ได้หรือคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแจบอมก็ยิ่งยิ้มกว้างกว่าเก่า มองเผินๆ อาจจะเหมือนแจบอมเองก็เห็นชอบกับความคิดที่ว่า แต่ในความเป็นจริงมินอากลับสัมผัสได้แต่ควาเย็นชาฉับพลันที่อีกฝ่ายมอบให้
“ไม่เคยมีคำว่า ‘เรา’ ครับ พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าเราควงกันเล่นๆ สนุกๆ น่ะได้ แต่พี่รักมินอาไม่ได้ มอบความผูกพันลึกซึ้งให้ก็ไม่ได้อีก”
เธอปล่อยแขนออกจากร่างสูง สีหน้าแสดงความผิดหวังผสมโกรธเกรี้ยวออกมาชัดเจน “พี่มันเห็นแก่ตัว”
“ครับ ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกยุ่งกันแล้วกันนะ” แจบอมเป็นผู้ชายที่มีรอยยิ้มประดับอยู่ที่ใบหน้าเสมอแม้ในยามที่โดนด่า
แต่มีหรือที่เธอจะยอม เธอหลงรักชายหนุ่มมาตั้งหลายปี เธอไม่มีวันยอมให้อุปสรรคอย่างชเวยองแจมาขัดขวางความรักของเธอเด็ดขาด ถ้าผู้ชายอย่างอิมแจบอมใช้ไม้แข็งด้วยไม่ได้ เธอก็จำต้องใช้ไม้อ่อนไปก่อนเพื่อรักษาสถานภาพเอาไว้ “มินอาขอโทษค่ะ พี่รีบรับโทรศัพท์เถอะค่ะ เดี๋ยวพี่ยองแจจะสงสัย”
ความเยียบเย็นในแววตาของแจบอมหายไปทันที เขายิ้มละมุนให้อีกฝ่าย “ขอบคุณที่เข้าใจอะไรง่ายๆ นะครับ”
.
.
.
“ทำอะไรอยู่ครับแจบอม” ร่างเล็กส่งเสียงถามอย่างร่าเริงขณะที่เฝ้าจับตามองปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไปด้วย
(“กำลังจะออกไปทานข้าวกับลูกค้าน่ะครับ ยองแจมีอะไรหรือเปล่า”)
“คิดถึงน่ะ คิดถึงมากๆ เลยด้วย อยากเจอแจบอมจัง อ๊ะ! ขอโทษครับ ผมไม่น่าพูดแบบนี้ตอนแจบอมทำงานเลย ลืมมันไปเถอะครับ ตั้งใจทำงานล่ะ รักแจบอมนะครับ” ยองแจแสร้งพูดด้วยรู้ดีว่าอีกไม่นานแจบอมจะต้องทิ้งผู้หญิงคนนั้นมาหาเขาแน่นอน ยองแจก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน แต่จากสถิติตลอดสามปีที่ผ่านมา หากยองแจบอกว่า ‘อยากเจอ’ ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่อิมแจบอมจะปฏิเสธ
จะบอกว่าเพราะแจบอมทั้งรักทั้งหลงเขาก็ดูจะหลงตัวเองไปหน่อย แต่เขาก็หาคำตอบที่เข้าท่ากว่านี้มาอธิบายไม่ได้อีกแล้ว
(“ยองแจอยู่ที่ไหนหรือครับ”)
“อยู่บ้านคนเดียวน่ะครับ พี่จินยองหายไปไหนแต่เช้าก็ไม่รู้...” ทอดน้ำเสียงออดอ้อนพลางปรายตามองคนที่ถูกพาดพิงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
(“งั้นเดี๋ยวผมไปหานะ”)
“อย่าเลยครับ! อย่าให้ยองแจทำงานของแจบอมเสียสิ”
(“ไม่หรอกครับ เราคุยธุระกันเสร็จแล้วน่ะ ยองแจอยากได้อะไรมั้ยครับ?”)
ยองแจวาดรอยยิ้มร้ายๆ ที่แจบอมไม่มีทางมองเห็น “อยากกินสปาเก็ตตี้มีทบอลร้านเดิมน่ะ แจบอมช่วยแวะซื้อมาให้หน่อยได้มั้ย?”
(“รับบัญชาครับเจ้าหญิง”)
ยองแจวางสายโทรศัพท์แล้วหันมามองหน้าจินยองเหมือนคนที่ถือไพ่เหนือกว่าทุกสถานการณ์ “เขาเลือกผม”
“เขาอาจจะมีอะไรกันเสร็จแล้วก็ได้นะ”
“ระหว่างทางจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกผม” ยองแจไม่ได้แกล้ง แต่เขาคิดอย่างนี้จริงๆ แจบอมเป็นผู้ชายเจ้าชู้มาก มากจนเขารู้ดีว่าคงไม่อาจเป็นคนเดียวของแจบอมได้ในทางพฤตินัย เขาไม่สนหากแจบอมจะแอบไปมีใครข้างหลังเขา ตราบใดที่สถานะของตนยังสูงกว่าคนพวกนั้น
สารภาพว่าการได้เป็น ‘แฟน’ ของอิมแจบอมอย่างออกหน้าออกตาไม่ใช่เรื่องหวานแหววดุจนิยายอย่างที่คนในอินเทอร์เน็ตคิดกันไปหรอก ทั้งหมดน่ะล้วนวางแผนมาอย่างดีแล้ว
จะจับเสือก็ต้องเข้าทางแม่
และยองแจก็โชคดีที่แม่ของแจบอมเองก็รักเขามากจนไปบีบลูกชายตัวเองให้ออกมาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษที่ดี
เบื้องหลังนี้อิมแจบอมไม่เคยรู้ และไม่มีความจำเป็นใดๆ จะต้องรู้
“ไม่รู้สึกแย่หรือใช้แฟนร่วมกับคนอื่นน่ะ” จินยองพูดขึ้นมา ตั้งใจยั่วอารมณ์น้องชายอีกรอบ
ยองแจหลุดจากภวังค์ของตัวเอง ร่างเล็กยิ้มกริ่ม “พี่ก็รู้ดีว่าผมมีวิธีของผม แต่มันคงไม่สำเร็จหากไร้ความร่วมมือจากปาร์คจินยองนะครับ”
::::::::::::::::::::::
“พี่ต้องไปแล้ว” เขาหันไปบอกมินอาเสียงเรียบ
“ช่วยไปส่ง...”
“ขอโทษทีนะครับ พี่รีบจริงๆ เดี๋ยวพี่เรียกแท็กซี่ให้นะ” วาจานุ่มนวลหากแต่กรีดลึกลงในใจของคนฟังถูกเอื้อนเอ่ยจากปากของอิมแจบอม มันตอกย้ำอีกครั้งว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีค่าสำหรับเขาเลยสักนิด
เธอสูดลมหายใจลึกๆ แล้วเอ่ยถาม “ฉันถามอะไรพี่อย่างหนึ่งได้มั้ยคะ?”
“ได้สิ”
“ถ้าพี่รักพี่ยองแจมาก ทำไมพี่ไม่หยุดคะ ทำไมพี่ไม่มองที่พี่ยองแจคนเดียว พี่ไม่รู้หรือว่าสิ่งที่พี่ทำมันก็คือการหักหลัง” เธอกำลังจะร้องไห้ ทั้งๆ ที่ผู้หญิงสวยเลือกได้อย่างเธอไม่ควรจะต้องมาตกอยู่ในภาวะเป็นสองเช่นนี้
แจบอมยิ้มอีก “ผู้ชายไม่เคยพอครับ”
“แม้มันจะทำร้ายคนที่พี่รักที่สุดก็ตามหรือคะ?”
“....”
“....”
“รถมาแล้ว ไปเถอะครับ” คำไล่กลายๆ นั่นทำให้เธอไม่กล้าพูดอะไรต่อ เธอบอกลาเขาแล้วขึ้นรถไป
แจบอมมองไปจนแท็กซี่คันนั้นลับสายตาแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา
“ถ้าพี่รักพี่ยองแจมาก ทำไมพี่ไม่หยุดคะ ทำไมพี่ไม่มองที่พี่ยองแจคนเดียว พี่ไม่รู้หรือว่าสิ่งที่พี่ทำมันก็คือการหักหลัง”
คำพูดนั้นตบหน้าเขาเต็มๆ
::::::::::::::::::::::
มินอาพยายามจะไม่ร้องไห้ออกมาแม้ว่าจะเจ็บไปหมด เธอนั่งมองทิวทัศน์ที่แล่นผ่านถนนไปอย่างรวดเร็ว แล้วจู่ๆ แท็กซี่คันดังกล่าวก็หักรถเข้าข้างทางที่เป็นสวนสาธารณะค่อนข้างเปลี่ยว
“เกิดอะไรขึ้น จอดรถทำไม!”
“มีคนอยากคุยกับคุณ”
เธอเลิกคิ้วด้วยความสนเท่ แต่แล้วร่างบอบบางที่ลงมาจากพอร์ชคันงามก็เฉลยทุกอย่างออกมา เธอพยักหน้าแล้วลงจากรถ
“ชเวยองแจ” เธอเอ่ยทักคนที่ยืนพิงรถตัวเองอยู่ด้วยท่าทางสบายๆ
“สงสัยจะไม่เคยเรียนเรื่องมารยาท บ้านเธอเรียกรุ่นพี่ด้วยชื่อเฉยๆ แบบนี้น่ะหรือ”
มินอาเสยผมขึ้น “กับคนบางคนก็ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทด้วย”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแจบอมถึงไม่แคร์เธอ” ผู้ชายอีกคนที่เธอไม่รู้จักพูดลอยๆ เหมือนจงใจจะพูดกับดินฟ้าอากาศมากกว่า หน้าตาไร้อารมณ์นั่นกวนประสาทจนเธอเริ่มหงุดหงิด
“หมายความว่ายังไง!”
จินยองยักไหล่ “อืม โง่ด้วย”
“มีธุระอะไรก็ว่ามา ฉันไม่ใช่พวกว่างงานเหมือนนาย!” เธอกระชากเสียง
“ถ้างานยุ่งจริงคงไม่มีเวลามายุ่งกับแฟนชาวบ้านเขาหรอกจริงมั้ย” ยองแจหัวเราะ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวหลังจากนี้ก็ได้ว่างจริงๆ แล้วแหละ”
มินอากัดฟันกรอด คำเตือนจากรุ่นพี่ในวงการว่าชเวยองแจน่ะร้ายย้อนกลับเข้ามาในหัวเธออีกครั้ง เธอไม่เคยเชื่อเลยจนกระทั่งได้มาเห็นร่างมารของอีกคนด้วยตาของตัวเอง
“รู้ใช่มั้ยฉันเป็นอะไรกับแจบอม” ยองแจที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เอ่ยถาม
และแทบจะทันทีที่มินอาตอบกลับไป “นางบำเรอ”
“เธอไม่น่าบังคับฉันเลย” ยองแจพูดด้วยเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ แต่ดวงตากลับกำลังประกาศชัยชนะจนคนมองรู้สึกไม่ปลอดภัย
มินอาไม่มีวันรู้เลยว่าชเวยองแจคิดจะทำอะไร ในเสี้ยววินาทีที่เธอคิดจะวิ่งหนีขึ้นแท็กซี่ไป แต่เมื่อมองไปด้านหลังก็พบกับความว่างเปล่า
หญิงสาวตกหลุมพลางของปีศาจน้อยเข้าจนได้
ทั้งๆ ที่ใจสั่นไปหมด แต่ทิฐิก็ทำให้เธอจมไม่ลงอยู่ดี “กลัวแพ้หรือไงถึงต้องหลอกให้ฉันมาเจอในที่แบบนี้ กลัวว่าพี่แจบอมเขาเลือกฉันแล้วจะทนไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เหอะ นางฟ้าใสซื่อของวงการบันเทิง หลอกลวงสิ้นดี! คอยดูนะฉันจะแฉจนแกไม่มีที่ยืนอีกเลยนังนางบำเรอ!”
“แก!” ได้ผล คำพูดของมินอากระตุ้นต่อมโมโหของยองแจให้ทำงานเข้าจนได้
“นางบำเรอนั่นมันเธอไม่ใช่หรือไง จำหน้าที่ผิดไปหรือเปล่า” จินยองพูดลอยๆ ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อขัดอารมณ์ของน้องชาย แม้แต่ตอนนี้ใบหน้าใต้กรอบแว่นหนาก็ยังไม่แสดงอารมณ์ใดๆ นอกเสียจากความเหนื่อยหน่าย “ความจริงหน้าตาเธอก็ดีนะ ไปหาสามีที่เป็นของตัวเองซะเถอะ อย่ามาเสียเวลากับอิมแจบอมเลย เป็นเมียน้อยมันไม่สนุกหรอกสาวน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายที่เขามีเมียหลวงเป็นผู้ชาย นี่อายแทนนะพูดตรงๆ”
“พูดดีๆ ก็เป็นนี่” ยองแจดูอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อยหลังจากจินยองพูดจบ ร่างเล็กก้าวเข้ามาประชิดตัวมินอาก่อนจะบีบที่คางของหญิงสาวอย่างแรง
มินอาพยายามจะสะบัดตัวหนีแต่ก็สู้แรงผู้ชายไม่ได้ เธอโกรธจัดจนพูดไม่ออก หากตอนนี้มีใครถามว่าสิ่งที่เกลียดที่สุดในโลกคืออะไร เธอไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่าแววตาของชเวยองแจที่กำลังมองมา
และ.. โดยไม่มีใครคาดคิด
ยองแจก้มตัวลงบดเบียดริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง เขาจับมือของมินอาให้รั้งใบหน้าของเขาไว้จนเหมือนกับว่าเธอเป็นคนเริ่มเกมนี้เอง
จินยองที่กำลังมองภาพเบื้องหน้าผ่านโหมดบันทึกวีดีโอในโทรศัพท์มือถือของตนเบ้ปากออกมาน้อยๆ เมื่อเห็นน้องชายทุ่มทุนมากเกินไปหน่อย
“จูบฉันทำไม!!!” ทันทีที่ผละออกมินอาก็โวยวายออกมาเสียงดัง สมองมึนงงกับพฤติกรรมเข้าใจยากของคนที่ถือศักดิ์ว่าตัวเองเป็นเมียหลวง
“ไม่ได้พิศวาสหรอกนะ” ยองแจว่าอย่างไม่ใส่ใจแล้วหันไปหาจินยอง คุณผู้จัดการชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ร่างเล็กพยักหน้าพอใจก่อนจะหันมาหามินอาอีกที รอยยิ้มร้ายถูกวาดขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับข้อความทิ้งท้ายให้อีกฝ่ายสงสัยเล่นๆ
“อ่านหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้ด้วยนะ”
::::::::::::::::::::::
เสียงสะอื้นของยองแจยังคงติดอยู่ที่หูแม้ว่าเจ้าตัวจะวางสายไปนานแล้วก็ตาม แจบอมก้มมองหนังสือพิมพ์บันเทิงที่ลงรูปคนรักกำลังยืนจูบอยู่กับหญิงสาวที่เขาเองก็รู้จักดีด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก
“ยองแจ มันเกิดอะไรขึ้น”
“ผมต่างหากที่ควรจะถามแจบอมว่ามันเกิดอะไรขึ้น! ฮึก ฮือ ผู้หญิงคนนั้นนัดผมออกไปหาหลังจากวางสายจากคุณ เธอบอกว่าเธอกำลังจะมาแทนที่ผม แล้วเธอก็จูบผม จูบเพื่อลบรอยทุกอย่างที่แจบอมเคยจูบผมไว้!”
“ทุกอย่างมันพังก็เพราะความมักมากของคุณนั่นแหละแจบอม”
แจบอมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะและก็พบว่าเป็นปาร์คจินยองนั่นเองที่กำลังนั่งลงฝั่งตรงข้าม เขารีบเอ่ยถามอาการร่างเล็กทันที “ยองแจเป็นไงบ้าง”
“แย่” จินยองพูดสั้นๆ แล้วรอดูปฏิกิริยาของชายหนุ่ม เมื่อเห็นแจบอมมีสีหน้าเคร่งเครียดจึงพูดต่อ “เขาเป็นผู้ชายนะ ข่าวที่ออกมาฝ่ายหญิงมันเสียหายอยู่แล้ว ใครจะมองว่ายองแจจะโดนกระทำ น้องเครียดมากนะครับคุณแจบอม”
“เฮ้อ”
“แต่ที่เขาเครียดกว่าก็คือคำพูดของชอนมินอา ถ้าไม่มีมูลหมามันคงไม่ขี้หรอกใช่มั้ยครับ แล้วตกลงเธอเป็นอะไรกับคุณ” จินยองจี้ตรงประเด็นทันที
แจบอมก้มหน้า “ผมไม่ได้เกินเลยกับเธอ”
“คุณตอบไม่ตรงคำถามนะ”
“คุณก็รู้ดีนี่นาจินยอง ผมมันก็เป็นผู้ชาย --”
“เห็นแก่ตัว” ร่างโปร่งต่อทันควัน
แจบอมถอนหายใจยาวๆ “ผมกำลังเปลี่ยนตัวเอง ก็เพื่อยองแจนั่นแหละ ผมรักเขาจริงๆ”
“คุณอยากให้ยองแจมีแค่คุณคนเดียวหรือเปล่า?”
“อืม”
“คุณอยากมีแค่ยองแจคนเดียวหรือเปล่าแจบอม?”
เงียบ
เขาตอบไม่ได้
“บางทีน้องผมคงต้องการคนที่ดีกว่านี้”
“อย่านะจินยอง ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มียองแจ” เขาละล่ำละลักบอก ไม่เหลือคราบของคุณชายอิมผู้ทรนงเลยสักนิด
“แล้วคุณไม่คิดหรือว่ายองแจจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ?” จินยองพูดด้วยแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น ร่างโปร่งกำลังถือไพ่เหนือกว่า “สัญญามาสิอิมแจบอม! สัญญามาว่าต่อไปนี้จะมีแค่ยองแจคนเดียว!!”
เขากำลังลังเล
“ว่าไง?”
“ผม .. สัญญา”
จินยองยิ้มมุมปาก “จำคำพูดตัวเองไว้ให้ดีล่ะอิมแจบอม ถ้าน้องผมต้องมาเจออะไรแบบนี้เพราะผู้หญิงของคุณอีก คุณจะไม่มีวันได้พบยองแจอีกเลย!”
ปิดเกม ชเวยองแจชนะน็อก
::::::::::::::::::::::
“พี่น่าจะไปเป็นดารา” ยองแจที่กำลังนอนเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่เปรยขึ้นเบาๆ เมื่อฟังสิ่งที่พี่ชายตัวเองเล่าจบ
“นายก็ตกกระป๋องน่ะสิ”
“มีแฟนรวยต้องกลัวอะไร” เขาว่าพลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ตาเรียวรีไล่อ่านข้อความในเวบบอร์ดเดิมที่จินยองเคยอ่านเมื่อสามวันก่อน
‘พี่ยองแจสู้ๆ ฉันรู้ว่าพี่ไม่ได้เต็มใจ ดูหน้าพี่ก็รู้แล้วว่าโดนบังคับให้จูบน่ะ!’
‘มือยัยนั่นล็อกหน้ายองแจไว้ด้วยเห็นหรือเปล่า หนอย! นังแพศยา กล้าทำให้ยองแจของฉัน(ยืมวันนึงนะแจบอม)แปดเปื้อนเรอะ!!!’
‘เฮ้! ทุกคนฉันมีข่าวล่ามาบอก เห็นว่าแจบอมกำลังจะขอยองแจแต่งงาน!!!’
ข้อความล่าสุดที่เพิ่งถูกโพสออกมาทำให้คิ้วเรียวขมวดเป็นปม “แจบอมกำลังจะขอยองแจแต่งงาน...??”
“ข่าวในนี้มันไวกว่าคนจะโดนขออีกแฮะ” จินยองที่ย้ายตัวเองมานั่งข้างๆ น้องชายพูดทึ่งๆ
“จริงอ่ะ?” เขาหันไปถามพี่ชายที่ตอนนี้แปลงโฉมซะจนไม่เหลือคราบความเฉิ่มเช่นเดิม
“ไม่รู้สิ”
“แล้วพี่ว่าผมควรแต่งดีมั้ย”
“มันก็แล้วแต่นาย”
ยองแจทำท่าคิดหนัก ไอ้รักมันก็รัก แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ก็ยอมรับว่ายังไม่มั่นใจ “พี่ว่าแจบอมเขาจะเปลี่ยนได้หรือเปล่า”
จินยองยิ้มแล้วลูบหัวยองแจ “คนเราน่ะนะ รักกันมันก็ต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน นอกลู่นอกทางบ้างก็ต้องให้อภัยกัน นายเป็นคนบอกพี่เองไม่ใช่หรือว่าระหว่างทางจะเป็นไงก็ช่างขอให้ปลายทางมันคือน้องของพี่น่ะ”
“วันนี้พูดซึ้งแฮะ” เขาว่า แต่ก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง
“ชีวิตคู่น่ะ มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สวยหรูเหมือนในเทพนิยายหรอกนะ ยองแจและแจบอมต้องเรียนรู้ที่จะก้าวไปพร้อมๆ กัน”
“แล้วถ้ามีมารผจญ?” ยองแจหยั่งเชิง
จินยองหัวเราะ “จะมีใครร้ายไปกว่าชเวยองแจอีกล่ะ”
::::::::::::::::::::::
“ไปไหนหรอแจบอม” ยองแจที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถมานานเอ่ยถามร่างสูงที่บัดนี้กำลังขะมักเขม้นกับการขับรถ
“เดี๋ยวก็ถึงแล้ว”
“หิวแล้วอ่า”
“น่าๆ แปปเดียว”
ใช้เวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงยังจุดหมาย ยองแจที่ถูกปลุกให้ตื่นลืมตามาอย่างงัวเงียๆ แล้วเอ่ยถาม “ที่ไหนอ่ะ”
“ลงมาสิ”
คนทั้งคู่เดินลงจากรถ ยองแจพบว่าปลายทางที่แจบอมลงทุนขับรถมาตั้งหลายชั่วโมงคือทะเลนั่นเอง ชายหาดยาวสุดลูกหูลูกตาทอดตัวอยู่เบื้องหน้า เสียงคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่กระทบเข้าฝั่ง กลิ่นของไอเกลือจางๆ ที่ลอยมาตามลม ทั้งหมดล้วนแต่ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นทั้งนั้น
“ดูนั่นสิ” แจบอมชี้ให้ยองแจมองไปยังผืนน้ำ บัดนี้พระอาทิตย์ดวงโตกำลังจะจมลับขอบฟ้าอยู่รอมร่อ
ยองแจอ้าปากค้างกับความงดงามที่ธรรมชาติบรรจงสร้างขึ้นมาจนลืมสรรพสิ่งรอบกายไปเสียสนิท เขามารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงแจบอมเรียก เมื่อหันไปมองก็เห็นแจบอมกำลังนั่งคุกเข่ากับผืนทราย ร่างเล็กใจเต้นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
“ยองแจครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแทรกเสียงคลื่นกระทบฝั่ง เป็นเสียงของผู้ชายที่เขาหลงรักมาเนิ่นนานหลายปี เขามองอิมแจบอมด้วยแววตาที่ตื้นตัน น้ำเสียงของแจบอมก็สั่นไม่แพ้กับหัวใจของเขาเลย “ผมอาจจะไม่ใช่คนที่ดีพร้อม แต่ผมสัญญาว่าผมจะเป็นคนที่ดีกว่านี้เพื่อเราสองคน ยองแจจะแต่งงานกับผู้ชายอย่างผมได้มั้ยครับ?”
เขาควรจะร้องไห้มั้ย??
ยองแจถามตัวเอง เพราะพอรู้ล่วงหน้ามาบ้างว่าแจบอมจะมาขอเขาแต่งงาน ไอ้ซึ้งมันก็ซึ้งแหละ แต่เซอร์ไพรซ์ที่คนถูกเซอร์ไพรซ์รู้ล่วงหน้าแล้วมันก็ไม่น่าตื่นเต้นเท่าที่ควรนี่นา
แต่ร้องก็ได้มั้ง .. มันน่าจะดูประทับดี
“แจบอม ฮึก ฮือออ”
“ยองแจ”
“ผมดีใจที่แจบอมพูดกับผมแบบนี้ ผมไม่คิดว่าแจบอมจะเลือกผมจริงๆ”
“ผมรักยองแจนี่ครับ อย่าคิดมากน่า แต่งงานกันนะ”
“อือ!” คนสองคนโผเข้ากอดกันอย่างแนบแน่นท่ามกลางบรรยากาศสวยๆ ริมทะเลที่ตะวันกำลังจะลาลับขอบฟ้า
ที่ยองแจเคยนิยามความรักของพวกเขาสองคนว่าเหมือนเทวากับซาตาน
แล้ว ..
ตอบได้หรือยังว่าใครคือซาตาน??
End*
_____________ TALK!
รีไรท์จากฟิคเดิมของตัวเองฮะ เคยแต่งไว้ตั้งแต่ปี 2010 แต่รู้สึกใช่กับกัซไปหมดเลย เลยแปลงมา ใครใคร่อ่านเวอร์ไหนก็อ่านค่ะ ตอนนั้น อลจ ยังแต่งฟิคไม่ค่อยเป็นเลย ตรรกะใดๆ ในเรื่องก็ไม่มี คิดซะว่าอ่านฟิควูบๆ เรื่องนึงแล้วกันนะคะ ฮ่าๆๆๆ
คุยกันใน #ฟิคอลจ ค่ะ :)
อลจ.
No comments:
Post a Comment