(OS) WHISPER
จินยองชอบด่าผมอยู่เรื่อยว่าเป็นโรคจิต
‘โรคจิต’ ในความหมายของปาร์คจินยองก็หมายถึงการที่ผมชอบแอบจับแก้มเขา ตบก้นเขาบ้าง ส่งสายตาวาบหวาม มอบจุมพิตบางเบา จินยองจะแหวเสียงดังขึ้นมาทุกครั้งที่โดนผมแกล้งแบบนั้น คราวนี้ก็ใช่
“พี่เป็นบ้าอะไรมาเป่าหูผม!” คนน่ารักพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทันทีที่เราเข้ามาในห้องพักหลังเวที แฟนไซน์จบลงแล้ว แต่อารมณ์โกรธของจินยองเพิ่งเริ่มต้น เรียกได้ว่าเด็กน้อยของผมต้องเก็บอาการอยู่หลายนาทีเลยทีเดียวเพื่อจะมาบึ้มใส่ผมทีหลัง ริมฝีปากบางเบะออกน้อยๆ บอกให้รู้ว่าไม่พอใจ แถมยังเบี่ยงตัวหนีสัมผัสเมื่อผมพยายามจะเข้าไปกอด “ไม่ต้องมาแตะตัวเลย พี่มาร์คแม่งโรคจิต”
โรคจิตอีกแล้ว
ผมยิ้มมุมปากพลางกอดอกมองคนรักที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่มุมห้อง “โกรธขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
คิ้วของจินยองคลายปมออกมานิดหน่อย แต่หน้าก็ยังเชิดอยู่ดี “ไม่เชิง แค่ไม่ชอบ”
“ทำไมล่ะครับ” ผมก้าวเข้าไปประชิด อาศัยจังหวะที่จินยองเผลอรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ แก้มของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ น่าเอ็นดูจนเกือบเผลอฝังจมูกลงไป แต่นึกขึ้นได้ว่าคดีแรกยังไม่พ้นโทษก็เลยทำได้แค่มอง
“ต่อหน้าแฟนเยอะแยะ พี่ไม่อายเขาเหรอ”
“ไม่อาย”
จินยองอ้าปากอ้างกับคำตอบหน้าด้านๆ ของผม เขาพยายามจะแกะมือปลาหมึกของผมออก โทษทีนะ แต่เรื่องแบบนี้ผมเซียนกว่าเยอะ
“นี่จินยอง อยากให้พี่เลิกแกล้งแบบนี้หรือเปล่าล่ะ พี่ทำให้ก็ได้นะ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
“อ..อะไร” น้ำเสียงของจินยองฉายแววความไม่ไว้ใจออกมาอย่างชัดเจน
ผมยกยิ้ม “จินยองก็แค่... เลิกทำตัวน่ารักตลอดเวลา เลิกยิ้มหวาน เลิกหน้าแดงเวลาพี่อยู่ใกล้ๆ ถ้าทำได้พี่ก็จะเลิกแกล้งเราเหมือนกัน”
“ขี้โกง” คนน่ารักขยับปากต่อว่ามุบมิบ แต่ผมรู้เลยว่าเขากำลังเขินมาก หัวใจของจินยองที่แนบอยู่กับอกผมเต้นรัวเร็วจนน่ากลัวว่าจะวายไปเสียก่อน
“ผู้ชายยิ่งแกล้งก็แปลว่าเขายิ่งชอบนะจินยอง”
นอกจากแก้ม หูของจินยองก็เปลี่ยนเป็นสีแดงจัดแล้วทีนี้ ใครทนไหวก็ทน แต่ไม่ใช่ผมคนนี้แน่นอน
ผมอมยิ้มแล้วยื่นริมฝีปากไปแนบชิดข้างใบหูนิ่ม จินยองตัวแข็งทื่อเหมือนจะรอฟังว่าผมจะพูดอะไรต่อ แต่กลับได้รับลมร้อนๆ ที่เป่าเข้ามาในหูเหมือนตอนอยู่บนเวทีอีกครั้ง
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต!”
END
talk about me at #ฟิคอลจ
แอร๊ยยย มาร์คต้วนนน
ReplyDeleteแกล้งบ่อยๆก็ได้นะ เราชอบบ